สงขลาพอเพียง : เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพจังหวัดสงขลา - Songkhla Health

โดย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ

เมืองลิแอชเป็นหนึ่งในเมืองเก่าแก่ของเบลเยียมปรากฏหลักฐานมาตั้งแต่ราวศตวรรษที่ 11 เนื่องทำเลที่ตั้งเมืองนั้นตั้งอยู่ริมแม่น้ำมูส (Meuse) และมีเนินเขาเหมาะกับการสงคราม จึงได้มีการสร้างป้อมปราการไว้บนเนินเขา ปัจจุบันป้อมนี้เหลือแต่กำแพงหิน เพราะได้ถูกฝรั่งเศสทำลายป้อมนี้ลงอย่างสิ้นเชิงในปี 1703 ประวัติศาสตร์ยุโรปตลอดมาเป็นประวัติศาสตร์สงครามที่มีการต่อสู้ระหว่างขุนนางมาตลอดหลายพันปี แม้ก้าวสู่การเป็นรัฐชาติก็ยังรบกันบ่อยครั้ง จนย่อยยับกับสงครามโลกทั้งสองครั้ง และยุติการทำรบอย่างสิ้นเชิงนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา

จุดเด่นประการสำคัญของป้อมปราการที่เรียกว่า citadel ของเมืองลีแอชคือบันไดหินที่มี 408 ขั้นที่เชื่อมระหว่างใจกลางเมืองกับป้อมปราการบนเนินเขา มัคคุเทศก์เล่าว่า แต่เดิมนั้นป้อมปราการเป็นที่พักของชนชั้นสูงในสังคม มีทั้งบาทหลวงขุนนางและขุนทหาร ในอดีตนั้นทางลงจาก citadel ไปยังตัวเมืองก็เป็นถนนลาดไปตามเนินเขา แต่ต้องผ่านย่านโสเภณีก่อนจึงจะถึงตัวเมือง บาทหลวงและขุนนางจึงได้ตัดสินใจสร้างบันไดหินตัดตรงจาก citadel ลงสู่ใจกลางเมืองเพื่อไม่ต้องเดินผ่านย่านนั้นอีก เป็นบันไดหรูหราที่บ่งบอกสถานะแห่งชนชั้นอีกด้วย ซึ่งนับเป็นความคิดที่ดี หลังจากบันไดสร้างเสร็จ เหล่าชนชั้นสูงก็ได้ใช้บันไดอภิสิทธิ์นี้ตามวัตถุประสงค์อย่างสงบได้ไม่ถึงสามวัน บรรดาหญิงโสเภณีรวมทั้งร้านขายสุรา สำนักโคมหลากสีต่างก็ทยอยย้ายที่ตั้งมาอยู่เชิงบันไดและขยายลึกเข้าไปในตรอกย่านนั้น จนเป็นย่านการค้าประเวณีหลักของเมืองไปในที่สุด คำถามคือแล้วเหล่านักบวชขุนนางจะทำยังไง เพราะหมดเงินทองไปมากกับบันไดที่สง่างามเช่นนี้ ในที่สุดก็ทำอะไรไม่ได้ครับ เพราะเป็นกฎหมู่มหาชน ผู้ปกครองก็ต้องรับสภาพไป

เกร็ดเรื่องเล่าพื้นๆเช่นนี้สร้างเสน่ห์ให้กับบันไดแห่งนี้มากกว่าข้อมูลว่าบันไดแห่งนี้สร้างโดยบิช็อปองค์ไหนในปีอะไรเสียอีก เกร็ดประวัติศาสตร์สามัญชนนั้นมักปรุงแต่งน้อยและสะท้อนสังคมในยุคสมัยนั้นได้เป็นอย่างดี