สงขลาพอเพียง : เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพจังหวัดสงขลา - Songkhla Health

หนุนเสริมภาคี ประสานความร่วมมือ

เรื่องเล่าจากเบลเยียม 19 : วัฒนธรรมรักการอ่าน

photo  , 640x480 pixel , 47,513 bytes.

โดย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ

ภาพนี้คนขับรถบัสที่พานักเรียนอย่างพวกผมทั้งชั้นปีไปทัศนศึกษา พอแวะส่งเราลงตรงสถานที่หยุดพักระหว่างทางเพื่อให้เข้าห้องน้ำ แกก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน อ่านอย่างจริงจัง หากเราไปที่สนามบินหรือแหล่งท่องเที่ยว ฝรั่งเขาก็จะถือหนังสือละอ่านไปเรื่อยเพื่อฆ่าเวลา คนไทยเน้นฆ่าเวลาด้วยปาก ด้วยการคุยกันอย่างออกรส แต่ฝรั่งเขานิยมอ่านหนังสือกัน ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฝรั่งเขาส่งเสริมวัฒนธรรมรักการอ่านกันได้อย่างไร

แต่อย่างน้อยวัฒนธรรมการเรียนการสอนในห้องเรียนที่ไม่ยัดเยียดจนเกิดความรู้สึกเบื่อการอ่านหรือเรียนหลังคาบเรียน ก็น่าจะมีส่วนอย่างมากต่อวัฒนธรรมรักการอ่าน หนังสือก็หาได้ง่ายในบ้านแต่ละหลัง สภาพสังคมที่เป็นครอบครัวเดี่ยว ความเป็นชุมชนมีน้อย การอยู่กับตัวเองมาก ก็อาจมีส่วนด้วย หนังสือจึงทำหน้าที่เป็นเพื่อนได้ อีกสิ่งที่พอจะเห็นก็คือเกือบทุกประเทศในยุโรปจะลดอัตราการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในหมวดหนังสือ ประเทศที่ไม่เก็บภาษีนี้ในหมวดหนังสือมี 2 ประเทศคือ อังกฤษและไอร์แลนด์ ส่วนอิตาลีเก็บ 4% ฝรั่งเศสเก็บ 5.5% เบลเยียมเก็บ 6% เป็นต้น คือเขาจะเก็บในอัตราประมาณ 25% ของอัตราภาษีเต็ม เพื่อให้หนังสือมีราคาถูกลง

การส่งเสริมการอ่านนั้นคงส่งเสริมแต่ลมปากไม่ได้ อย่างน้อยการทำให้หนังสือมีราคาไม่แพงจนเกินไป ก็น่าจะช่วยได้บ้าง ไม่ต้องใช้เงินสองสามพันล้านเหมือนแจกแท็ปเล็ตที่อาจเข้าข่ายส่งเสริมการเล่นเกมส์มากกว่าส่งเสริมการอ่าน และที่สำคัญแท็ปเล็ตนั้นอีกสองสามปีก็เสื่อมหมดอายุ ต้องซ่อมต้องซื้อแจกใหม่ แต่หนังสือถ้าไม่โดนปลวกกินและไม่ถูกน้ำท่วมจะยังคงอยู่กับเราอีกนาน เราเอาเงินซื้อแท็ปเล็ตไปซื้อหนังสือแจกนักเรียน ป.1 ไม่ดีกว่าหรือ

Relate topics

ขออภัย ขณะนี้เว็บไซท์ของดการสร้างหัวข้อใหม่และการแสดงความคิดเห็นไว้ชั่วคราว