สงขลาพอเพียง : เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพจังหวัดสงขลา - Songkhla Health

ตามไปดูอัจริยะเด็กพิเศษ ที่ร.ร.สงขลาพัฒนาปัญญา



"ความเป็นมนุษย์ ไม่สิ้นสุดที่ความพิการ" ประโยคนี้มาจาก ร.ร.สงขลาพัฒนาปัญญา
ที่ต้องการโอกาสและการยอมรับจากสังคมเฉกเช่นเดียวกับเด็กปกติ และหากได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด คุณอาจจะเป็นอีกคนหนึ่งที่ตกหลุมรักพวกเขา อย่างใครหลายๆ คนก็ได้

8 มกราคม 2548 ซึ่งตรงกับวันเด็กแห่งชาติ "โฟกัสภาคใต้" มีโอกาสไปสัมผัสกับกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ณ โรงเรียนสงขลาพัฒนาปัญญา ซึ่งจัดโดย บริษัท ชินคอร์เปอร์เรชั่น จำกัด สาขาภาคใต้ตอนล่าง

ภาพแรกที่ประจักษ์แก่สายตาก็คือ เด็กนักเรียนที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา หรือที่เราเรียกว่า เด็กกลุ่มพิเศษ เกือบ 200 ชีวิต รอต้อนรับผู้มาเยือนอย่างอบอุ่น พร้อมรอยยิ้มและการทักทายด้วยการยกมือไหว้ พร้อมทั้งกล่าวว่า สวัสดีครับ/ค่ะ

แทบไม่น่าเชื่อว่า เด็กที่นี่จะกล้าแสดงออก และให้ความเป็นมิตรแก่ผู้เยี่ยมเยือนอย่างดีเช่นนี้ มิหนำซ้ำ เด็กบางคนหากมองเพียงภายนอก แทบจะแยกไม่ออกเลยว่า เขามีความแตกต่างจากเด็กปกติอย่างไร

บอล หรือ นายพงษ์เฉลิม วัชรสุขุม นักเรียนชั้นม.6 โรงเรียนสงขลาพัฒนาปัญญา อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นนักเรียนรุ่นแรกของที่นี่ มีความโดดเด่นเรื่องการจดจำสิ่งต่างๆ ได้ดีมาก และแม้จะพูดออกมาเป็นประโยคได้ค่อนช้า เนื่องจากต้องใช้เวลาในการกรั่นกรองคำพูด
แต่ก็สามารถตอบคำถามของเราได้เป็นอย่างดี ที่น่าเสียดายก็คือบอลไม่สามารถรับรู้เรื่องการคำนวณ หรือคิดเลขได้เลย แต่เขาก็มีความถนัดในด้านอื่น เช่น การร้องเพลง

เพลงที่บอลเลือกร้องให้เราฟังในวันนั้นคือ เพลงอยากให้เธอเข้าใจ ผลงานของไมค์ ภิรมย์พร โดยมีเพื่อนนักเรียนอีกคนหนึ่งที่ออกไปร้องเพลงเช่นกันยืนเป็นกำลังใจ และคอยร้องคลอไปด้วย

นายสมศักดิ์ ชัยมณี ผู้อำนวยการโรงเรียนสงขลาพัฒนาปัญญา ซึ่งเพิ่งย้ายจากการเป็นผู้อำนวยการที่โรงเรียน โสตศึกษาสงขลาได้ 3 เดือน เปิดเผยว่า โรงเรียนฝึกนักเรียนตามความสามารถและพัฒนาการของเด็ก เพราะแต่ละคนจะมีพฤติกรรมที่แตกต่างกัน ดังนั้น ครูผู้สอนจะต้องเข้าใจ ให้ความเอาใจใส่ คอยศึกษาพฤติกรรม ตลอดจนมีความรักและศรัทธาในอาชีพนี้

"ถ้าพูดถึงความแตกต่างในเรื่องของความพิการ ผมมองแล้วก็ไม่รู้ว่าเด็กคิดว่าเขาแตกต่างจากเด็กปกติทั่วไปหรือเปล่า ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูของผู้ปกครองมากกว่า อย่างภาพยนต์เรื่องเอ๋อเหรอ ก็สะท้อนให้เห็นถึงการอยู่ร่วมกันของเด็กพิเศษกับเด็กปกติ ที่สามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้"

ผู้อำนวยการโรงเรียนสงขลาพัฒนาปัญญา พูดถึงระบบการเรียนการสอน รวมถึงการลงโทษเมื่อเด็กกระทำความผิดว่า ตนห้ามไม่ให้ตีอย่างเด็ดขาด เพราะเหมือนกับพวกเขาเป็นอย่างนี้แล้ว ยังไปซ้ำเติมด้วยการลงโทษวิธีดังกล่าว หากจะทำโทษก็ใช้การเก็บขยะ หรือบำเพ็ญประโยชน์ ซึ่งจะเป็นวิธีการที่ดีกว่า

"ผมคิดว่าเด็กกลุ่มนี้ได้รับโอกาสที่ดีจากรัฐบาลมากขึ้น เมื่อก่อนโรงเรียนพิเศษมีค่อนข้างน้อย เด็กพิเศษกลุ่มนี้ไม่มีโอกาสได้เรียน แต่ตอนนี้ เขาได้รับการพัฒนามากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาหลายหน่วยงานก็มาจัดกิจกรรมให้นักเรียน เช่น ททท.สำนักงานภาคใต้เขต 1 พัธภัณฑ์สงขลา สวนสัตว์สงขลา เป็นต้น แต่ก็ได้เพียงส่วนหนึ่งตามงบประ มาณที่มี"

นางสุมาลี มเหศักดิ์ขกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการและบริหารกิจการนักเรียน โรงเรียนสงขลาพัฒนา กล่าวว่า ตนเป็นข้าราชการคนแรกที่ย้ายมาที่นี่(ปี 2532) ยอมรับว่าการทำงานเหนื่อย แต่ก็มีความสุข เพราะสิ่งที่เด็กนักเรียนกระทำเป็นเนื้อแท้หรือตัวตนของเขาจริง ไม่มีการเสแสร้งหรือทะเลาะกัน เพราะเขาทำเช่นนั้นไม่เป็น

"เด็กจะมีความสุขมากเมื่อมีการแสดง และบุคคลภายนอกเข้ามาเยี่ยมเยียน เขากล้าแสดงออก เพราะเราให้โอกาสเด็ก ที่นี่ดังมากเรื่องการรำมโนราห์ เราคิดว่าเด็กเราสู้เด็กปกติได้ แต่บางคนก็ฝึกตั้ง 5-10 ปี กว่าจะได้แบบนี้ ซึ่งคนภายนอกที่เข้ามาจะประทับใจ และมาอีก เพราะเด็กมีมนุษยสัมพันธ์ อ่อนน้อม แต่เขาจะมีอารมณ์ทางเพศค่อนข้างรุนแรง และไม่รู้จักการเก็บกดเอาไว้ ซึ่งเราก็จะดูแลเรื่องนี้อย่างดี อย่างเด็กผู้ชายก็จะให้เขาไปห้องน้ำเพื่อช่วยตัวเอง โดยจะมีครูพี่เลี้ยงคอยดูแลอย่างใกล้ชิด นักเรียนทุกคนจะต้องอยู่ในสายตาตลอด ที่นี่จึงไม่เคยมีปัญหาเรื่องชู้สาวเหมือนโรงเรียนทั่วไป " นางสุมาลี กล่าวและว่า

เรามีนักเรียน 251 คน นับว่าสาหัสสากรรจ์มากสำหรับครูที่นี่ แต่ก็อยู่กันได้เพราะใจรักของบุคลากรที่นี่ โรงเรียนสงขลาพัฒนาปัญญา มีการเรียนการสอนตามปกติ แต่จะไม่เน้นทางด้านวิชาการ เพราะเขาไม่สามารถเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยเช่นเด็กนักเรียนปกติ แต่จะให้ฝึกทางด้านอาชีพ เช่น ปลูกผัก ประดิษฐ์ดอกไม้จากใยบัว เป็นต้น ซึ่งผักที่นักเรียนปลูกนอกจากจำหน่ายในโรงเรียนแล้ว องค์กรภายนอกอย่างโรงพยาบาลสงขลา ยังให้การสนับสนุนอย่างดีมาก โดยมักจะซื้อในราคาที่สูงกว่าที่นักเรียนขายจริง ทั้งนี้ก็เพื่อสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้กับผลงานที่มาจากน้ำพักน้ำแรงของพวกเขา

หลังการพูดคุยกับผู้บริหารทั้ง 2 ท่าน เราก็มีโอกาสได้ชมการแสดงจากน้องๆ นักเรียนสงขลาพัฒนาอีกประมาณ 4-5 ชุด ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความสามารถของพวกเขาได้เป็นอย่างดีว่า ทำได้ดีไม่แพ้นักเรียนปกติเลย ทั้งชุดรำมโนราห์ ชุดพราน หรือแม้แต่การเต้นประกอบเพลง ที่วาดลวดลายได้สุดเหวี่ยง จนพี่ๆ ทีมงานจากเอไอเอสยังต้องยอมแพ้

โดย Focus Team