สงขลาพอเพียง : เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพจังหวัดสงขลา - Songkhla Health

นักโภชนาการเตือนคนเลี้ยงลูกอย่าหลงเชื่อนมผสมเติมสาร DHA และ AA ให้ผลเลิศด้านการพัฒนาสมองและสายตาทารก พร้อมระบุสารทั้งสองชนิดมีอยู่แล้วในน้ำนมแม่ ทารกใช้ประโยชน์ได้เต็มที่

    เหตุกระเพาะอาหารย่อยง่ายกว่านมผสม ผลโพลล์ระบุแม่ร้อยละ 70 ต้องการใช้นมผสมเลี้ยงลูกจากอิทธิพลของโฆษณา

      พญ.ยุพยง แห่งเชาวนิช รองประธานศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย นำเสนอสถานการณ์การโฆษณาการเติมสาร DHA และ AA ซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดสายโซ่ยาวในนมผสมตามสื่อต่าง ๆ ระหว่างการเสวนาเรื่อง "ลูกหลงเต้า เพราะแม่หลงโฆษณา" ว่า จากการสำรวจพบว่า มีการโฆษณาสรรพคุณของสาร DHA และ AA ในแผ่นพับ สิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ รายการวิทยุ

    ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยทางตรงแจ้งข้อมูลอย่างชัดเจนว่า สารทั้งสองชนิดมีผลต่อการสร้างสมองของลูก ส่วนทางอ้อมมีการนำเสนอบทความทางวิชาการ ทำให้ผู้อ่านเห็นคล้อยตามว่า สาร DHA และ AA ที่เติมในนมผสมมีประโยชน์ทำให้พัฒนาการของสมองดี

    นายสง่า ดามาพงษ์ ผู้จัดการแผนงานอาหารและโภชนาการ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยผลการสำรวจเรื่องปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อความคิดและพฤติกรรมในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ กรณีศึกษาแม่ที่มีลูกแรกเกิดถึง 1 ปี ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 733 ตัวอย่างระหว่างวันที่ 8-16 กุมภาพันธ์ 2549 ว่า ร้อยละ 70 ของกลุ่มตัวอย่าง ระบุว่าการโฆษณานมผสม นมผง มีผลจูงใจ ต้องการใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นเลี้ยงลูก และแม่ร้อยละ 49.8 เคยเห็น เคยได้ยินการโฆษณานมผสมที่เติมสาร DHA และ AA และแม่ร้อยละ 67.9 ระบุว่า การโฆษณาทำให้เข้าใจว่าสามารถใช้ได้กับเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี ร้อยละ 66.7 เข้าใจว่า นมผงที่เติมสารพิเศษต่าง ๆ มีส่วนช่วยทำให้เลี้ยงลูกด้วยนมผง ผลสำรวจครั้งนี้ชี้ชัดว่า อิทธิพลของโฆษณามีผลต่อการตัดสินใจของแม่ค่อนข้างมาก โดยแม่ร้อยละ 39.1 ระบุว่า ต้องการให้ลูกได้รับสารอาหารอื่นเพิ่มมากขึ้น ร้อยละ 33.3 ต้องการให้ลูกฉลาด แข็งแรง มีพัฒนาการด้านสมอง

    ด้าน ศ.เกียรติคุณ นพ.วีระพงษ์ ฉัตรานนท์ ที่ปรึกษากลุ่มนมแม่แห่งประเทศไทย กล่าวว่า สิ่งที่คุณแม่ส่วนใหญ่ไม่รู้คือ นมแม่มีสาร DHA และ AA เป็นส่วนประกอบสำคัญในการพัฒนาด้านสายตาและสมองของทารก พบว่ากระเพาะอาหารของทารกสามารถดูดซึมไปใช้ได้อย่างเหมาะสม เพราะในน้ำนมแม่มีน้ำย่อยกรดไขมันนี้ด้วย ขณะที่นมวัวไม่มีสารทั้งสองชนิดนี้ ต้องนำสาร DHA และ AA จากเชื้อราที่อยู่ในพื้นดินและสาหร่ายขนาดเล็กเซลล์เดียวเติมเข้าไป ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัดว่า DHA และ AA ที่เติมลงไปนั้นทารกนำไปใช้ได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในมารดาที่ไม่สามารถให้นมแม่ได้ ควรเลี้ยงลูกด้วยนมผสมที่เติม DHA และ AA ดีกว่าสูตรที่ไม่เติม แต่ไม่ได้หมายความว่า สารนี้จะทำให้สมองของเด็กพัฒนาการดี เพราะพัฒนาการของสมองขึ้นกับหลายปัจจัยตั้งแต่พันธุกรรมและสภาพแวดล้อม สารดังกล่าวเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งเท่านั้น กระเพาะของเด็กแรกเกิด 2-3 เดือนมีขนาด 20 ซี.ซี. หรือ 4 ช้อนชา ถ้ากินนมผสมเข้าไป 1-2 ช้อนชา ก็กินพื้นที่ครึ่งกระเพาะทำให้อิ่มนาน แทนที่เด็กจะได้นมแม่ทุก 1-2 ชั่วโมง เพราะนมแม่ย่อยง่ายตามธรรมชาติให้มา ทารกจะได้สารอาหารน้อยลง

      ด้าน ภก.มานิต อรุณากูร รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ปี 2548 อย.จับปรับบริษัทผลิตนมที่แจกแผ่นพับแผ่นปลิวฐานโฆษณาไม่ได้รับอนุญาตจำนวน 8 ราย มีโทษจำ 2 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และกฎหมายอาหารและยาห้ามโฆษณาอวดอ้างว่าทำให้ฉลาด

      ดังนั้นเมื่อจะต้องตัดสินใจซื้อและเลือกซื้อนมเลี้ยงลูก ที่ไม่ใช่นมแม่นั้นต้องดูให้ละเอียดมาก ๆ เพื่อคนสำคัญของเรา แต่ทางที่ดีแนะนำให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะเป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก

ที่มาและภาพประกอบ

ที่มาสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)

update 22-02-2549