รายงานฉบับสมบูรณ์
รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเยาวชนฟื้นฟูสภาพป่าต้นน้ำผาดำเพื่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ที่กลุ่มเยาวชนรักษ์ป่าต้นน้ำผาดำได้จัดทำขึ้น เพื่อประกอบการรายงานผลในการดำเนินกิจกรรมตลอดระยะเวลา 1 ปีที่จัดทำโครงการเริ่มตั้ง สาเหตุที่ทางกลุ่มเยาวชนต้องจัดทำโครงการนี้ข้นมา เพื่อแก้ไขปัญหาสภาพป่าซึ่งเป็นต้นน้ำให้คนในหมู่บ้านได้ใช้ในการอุปโภค บริโภค รวมถึงเป็นแหล่งน้ำที่ไหลลงสู่คลองอู่ตะเภาและสิ้นสุดที่ทะเลสาบสงขลา ซึ่งกิจกรรมที่ทางกลุ่มได้จัดทำก็ประกอบด้วย กิจกรรมค่ายผู้นำ กิจกรรมเฝ้าระวังป่าต้นน้ำผาดำ กิจกรรมค่ายเพื่อการเรียนรู้ และกิจกรรมเก็บข้อมูล ผลจากการจัดทำโครงการก็ได้รวบรวมไว้ในรายงานฉบับนี้อย่างครบถ้วน ทางกลุ่มเยาวชนรักษ์ป่าต้นน้ำผาดำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการทำโครงการนี้จะช่วยลดปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าและช่วยปลูกจิตสำนึกให้กับชาวบ้านและประชาชนรวมถึงบุคคลที่ได้อ่านรายงานการดำเนินงานฉบับนี้แล้วคงจะทำให้รู้สึกรักทรัพยากรธรรมชาติและช่วยกันดูแลรักษาต่อไป
กิตติกรรมประกาศ
ทางกลุ่มยาวชนรักษ์ป่าต้นน้ำผาดำ กราบขอบพระคุณ
- สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ( สสส. ) ที่ได้สนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงานเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้คงอยู่ต่อไป
- ประชาคมรักษ์ป่าต้นน้ำผา ที่ได้ให้การสนับสนุนให้การช่วยเหลือ ในการทำกิจกรรมต่างๆของโครงการ ซึ่งถ้ากลุ่มเยาวชนไม่ได้รับการช่วยเหลือจากทางประชาคม ก็คงจะทำให้การดำเนินงานในครั้งนี้สำเร็จลงได้ยาก
- คุณชาคริต โภชะเรือง ที่ได้ให้คำปรึกษา ได้เป็นอย่างดีตลอดการทำโครงการ
- องค์การบริหารส่วนตำบลคลองหอยโข่ง ที่คอยให้การสนับสนุนการดำเนินโครงการ
- เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ที่ได้ช่วยบริการด้านการเดินทางระหว่างการทำกิจกรรม และให้ข้อมูลเกี่ยวกับป่าผาดำ ทางกลุ่มเยาวชนก็ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้การช่วยเหลือการดำเนินโครงการไว้ ณ ที่นี้ด้วย เพราะถ้าเกิดไม่มีท่านดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น การดำเนินโครงการคงจะไม่สามาสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
1. บทสรุปย่อการดำเนินงาน
โครงการเยาวชนฟื้นฟูสภาพป่าต้นน้ำผาดำเพื่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ได้จัดทำขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาการตัดไม้ทำลายป่า ปลูกจิตสำนึกให้คนรักธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนช่วยฟื้นฟูสภาพป่าให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ ซึ่งกิจกรรมที่ทำก็มีดังนี้
1. ค่ายผู้นำ เป็นกิจกรรมที่เครือข่ายของกลุ่มประชาคมรักษ์ป่าผาดำได้ฝึกการเป็นผู้นำของเยาวชนรักษ์ป่าต้นน้ำผาดำ โดยการให้ลงมือปฏิบัติและฝึกตามสถานที่ต่างๆ ที่เป็นแหล่งการเรียนรู้ ฝึกด้านการพูด บุคลิก การใช้สายตาในระหว่างการพูด ฝึกการใช้มือ ฝึกด้านการคิดวิเคราะห์ในขณะพูด ฟังการบรรยายความรู้ความเข้าใจเรื่องการเป็นผู้นำ
ผลที่ได้จากการทำกิจกรรมนี้ก็คือ เยาวชนมีความรู้ กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออกมากขึ้น อย่างเห็นได้ชัด
2. เฝ้าระวังป่าต้นน้ำผาดำ เป็นกิจกรรมที่ต้องการสำรวจป่าผาดำเพื่อดูการเพิ่ม - ลดของการตัดไม้ทำลายป่าและนำไปสู่หนทางแก้ไข รวมถึงหามาตรการแก้ปัญหาขยะในป่าจากนักท่องเที่ยว ผลที่ได้รับจากการทำกิจกรรมนี้ เยาวชนได้เรียนรู้ถึงสภาพป่าต้นน้ำที่แท้จริง แต่ทำได้เพียงในระยะหนึ่ง จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแผนงาน ดำเนินกิจกรรมนี้ต่อไปในลักษณะอื่น เนื่องมาจากการเฝ้าระวังป่ามีความปลอดภัยน้อยลงเพราะเกิดกระแสข่าวของการขัดแย้งกันระหว่างกลุ่มอนุรักษ์กับผู้บุกรุกพื้นที่ป่า จึงไม่เห็นสมควรที่จะทำกิจกรรมในลักษณะดังกล่าว
ผลที่ได้ จากการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดร่วมกับกลุ่มประชาคมรักษ์ป่าผาดำ และเครือข่ายต่างๆ ทำให้มีการจับกุมผู้กระทำความผิด ส่งผลทำให้การทำลายป่าลดลง และสามารถกระตุ้นให้ทางจังหวัดได้ลงมาแก้ปัญหา ด้วยการที่ผู้ว่าราชการจังหวัด ประกาศใช้ ม.25 ในการแก้ปัญหาผู้บุกรุก
ปริมาณขยะในป่าต้นน้ำก็ลดลง
3. ค่ายเพื่อการเรียนรู้ เป็นกิจกรรมที่กลุ่มเยาวชนและผู้ที่สนใจได้เข้าร่วมกิจกรรมการอนุรักษ์ป่า เพื่อปลูกจิตสำนึก และช่วยระดมความคิดหาหนทางแก้ไข การทำลายป่า
ผลที่ได้ จากการทำกิจกรรมนี้คือ มีเครือข่ายในการเรียนรู้ประโยชน์ของป่าต้นน้ำและร่วมกันแก้ไขปัญหาเพิ่มมากขึ้น ได้แก่ เครือข่ายเยาวชนและประชาคมรักษ์ป่าต้นน้ำ อ.สะเดา แต่ไม่เกิดเครือข่ายในอำเภอคลองหอยโข่ง เพราะคณะทำงานยังขาดการวางแผนในการจัดตั้งเครือข่าย ทั้งยังมีปัญหาเยาวชนในพื้นที่มีน้อย ผู้ปกครองบางส่วนมีความกังวลในเรื่องความปลอดภัย
ผลที่ได้อีกประการหนึ่ง คือ เป็นแรงผลักดันให้หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบได้ทำงานอย่างเต็มที่มากขึ้น มีผู้รู้จักป่าผาดำและกล่าวขานกันต่อไปอย่างกว้างขวาง วัดได้จากการที่มีเครือข่ายมาเรียนรู้ป่าต้นน้ำอย่างต่อเนื่อง
4. เก็บข้อมูล เป็นกิจกรรมที่ต้องการให้เยาวชนรักษ์ป่าต้นน้ำผาดำได้ระดมความคิดกันเพื่อค้นหาข้อมูลและได้เรียนรู้ ผลที่ได้รับจากการทำกิจกรรมนี้คือ มีข้อมูลที่สามารถเผยแพร่ให้แก่ผู้อื่นได้ เยาวชนได้เกิดการเรียนรู้ระหว่างการหาข้อมูลต่างๆที่ยังไม่ทราบ
ซึ่งการดำเนินโครงการถือว่าสามารถดำเนินโครงการสำเร็จลงด้วยดี สามารถทำให้ปัญหาของป่าต้นน้ำผาดำ เป็นที่รับรู้ทั้งในอำเภอคอลองหอยโข่งและระดับจังหวัด นำมาซึ่งแนวทางแก้ปัญหาต่อไป และแม้ผลที่ได้รับก็ตรงตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ แต่การทำงานก็มีปัญหาจากการดำเนินการ คือ ยังขาดความต่อเนื่องในการทำงานระหว่างกลุ่มเยาวชน อีกทั้งกลุ่มเยาวชนยังเป็นนักเรียน ทำให้ไม่มีเวลาในการทำกิจกรรม และขาดประสบการณ์ในการบริหารจัดการ ที่สำคัญ ยังขาดผู้นำในการทำกิจกรรม การทำโครงการเป็นการเรียนรู้ประสบการณ์ตรงครั้งแรกของกลุ่มเยาวชน
เงื่อนไขความสำเร็จในการแก้ปัญหา
1. กลุ่มเยาวชนมีกลุ่มประชาคมอนุรักษ์ป่าผาดำเป็นพี่เลี้ยงดูแลอย่างใกล้ชิด กลุ่มเยาวชนส่วนใหญ่เป็นลูกหลานของกกลุ่มประชาคมที่มีประสบการณ์ทำงานในพื้นที่ป่าต้นน้ำ
2. การทำกิจกรรมของกลุ่มเยาวชนช่วยสร้างกระแสการตื่นตัวในการอนุรักษ์ในพื้นที่ได้ง่าย
3. กลุ่มเยาวขนมีความมุ่งมั่น มีจิตสำนึกที่ดีในการทำงาน ทำให้ประสานเครือข่ายมาร่วมแก้ปัญหาได้ง่าย
4. ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการร่วมกันอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่าให้คงอยู่ต่อไป โดยเฉพาะเครือข่ายรักษ์คลองอู่ตะเภา คณะธรรมยาตรา
2. ลักษณะกิจกรรม
ค่ายผู้นำ
17-23 ต.ค. 47
ผู้เข้าร่วม 18 คน
เป็นกิจกรรมเพื่อฝึกทักษะการเป็นผู้นำในหัวข้อต่างๆผ่านเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ฝึกด้านการพูด
ฝึกด้านบุคลิก
ฝึกการใช้สายตาในระหว่างการพูด
ฝึกการใช้มือ
ฝึกด้านการคิดวิเคราะห์ในขณะพูด
ฟังการบรรยายความรู้ความเข้าใจเรื่องการเป็นผู้นำ
สรุปผล
1.เยาวชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเป็นผู้นำ
2.กล้าพูดกล้าแสดงออกมากขึ้น
3.สามารถพูดในที่ประชุมได้อย่างถูกต้อง
4.กล้าที่จะแสดงความคิดเห็น
5.สามารถเป็นผู้นำผู้อื่นได้
6.สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้
7.สามารถนำไปเผยแพร่กับบุคคลอี่นๆได้
25 ธ.ค. 47 - 6 มี.ค. 48 เฝ้าระวังป่าต้นน้ำผาดำ
เป็นกิจกรรมเดินสำรวจ เฝ้าระวังร่วมกับกลุ่มประชาคม จำนวน 8 ครั้ง
1.วันที่ 25-26 ธันวาคม 2547 ( 17 คน )
2.วันที่ 15-16 มกราคม 2548 ( 18 คน )
3.วันที่ 22-23 มกราคม 2548( 15 คน )
4.วันที่ 29-30 มกราคม 2548( 15 คน )
5.วันที่ 11-12 กุมภาพันธ์ 2548( 18 คน )
6.วันที่18-19 กุมภาพันธ์ 2548( 12 คน )
7.วันที่ 25-26 กุมภาพันธ์ 2548 ( 15 คน )
8.วันที่ 5-6 มีนาคม 2548( 15 คน )
เป็นการเดินสำรวจป่าผาดำเพื่อดูการเพิ่ม ลดของการทำลายป่า และแก้ไขปัญหาขยะบริเวณน้ำตก
สรุปผล
1.ทราบข้อมูลเพิ่ม - ลดของการทำลายป่า
2.เป็นข้อมูลให้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบได้ปฏิบัติงานมากขึ้น
3.ปัญหาขยะบริเวณน้ำตกผาดำลดลง
4.เยาวชนได้ใช้เวลาว่างบางส่วนทำสิ่งที่เกิดประโยชน์ต่อสังคม
ค่ายเพื่อการเรียนรู้ 2-4 พ.ค.48
ลักษณะกิจกรรมเข้าค่ายการเรียนรู้ เป็นเวลา 2 คืน 3 วัน ในวันที่ 2-4 พฤษภาคม 2548 เป็นค่ายที่ให้ผู้สนใจ
ร่วมกันทำกิจกรรม ที่ดีๆ เป็นประโยชน์ต่อป่าผาดำ
แสดงความคิดเห็นช่วยกันแก้ไขปัญหาป่าไม้ถูกทำลาย
ร่วมกันทำกิจกรรมตามฐาน 3 ฐาน
ฐานที่ 1 สำรวจระบบนิเวศน์
ฐานที่ 2 ศึกษาประวัติป่าไปดูอุโมง
ฐานที่ 3 เรียนรู้ศิลปะการวาดภาพ
แสดงความรู้สึกเกี่ยวกับป่า
ตั้งจิตอธิฐานให้ป่าผาดำมีความอุดมสมบูรณ์
ร่วมกันวางแผนการเป็นเครือข่ายเดียวกัน
กิจกรรมสร้างสัมพันธไมตรี
ผู้เข้าร่วมค่ายจำนวน 102 คน ณ ป่าต้นน้ำผาดำ
สรุปผลที่ได้
1มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับป่าผาดำมากขึ้น
2มีประสบการในการใช้ชีวิตอยู่ในป่าซึ่งสามารถช่วยเหลือตนเองได้
3มีเพื่อนใหม่หรือผู้ร่วมทำกิจกรรมมากขึ้น
4.เมื่อผู้ร่วมค่ายได้เห็นถึงป่าที่ถูกทำลายและป่าที่อุดมสมบูรณ์จึงทำให้เล็งเห็นถึงความสำคัญของป่ามากขึ้น
เกิดความสนิทสนมกันรวมถึงความสามัคคีภายในค่าย
5รู้จักพันธุ์ไม้ที่แปลกใหม่เพิ่มขึ้น
6.ได้เห็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่าตามธรรมชาติทำให้รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ควรรักษาไม่ควรทำลาย
7.เยาวชนและผู้ร่วมค่ายกล้าแสดงออก
8ทำให้ผ่อนคลาย
9.หน่วยงานที่มีหน้าทีรับผิดชอบได้แก้ไขปัญหา
10.มีผู้ที่ร่วมกันแก้ปัญหาป่าถูกทำลายมากขึ้น
11.ได้ความคิดเห็นดีๆในการแก้ไขปัญหา
12.เกิดวามภาคภูมิใจเมื่อได้ร่วมกันทำกิจกรรม
เป็นที่ชื่นชมแก่ผู้พบเห็นว่ามีกิจกรรมดีๆเกิดขึ้น
เก็บข้อมูล1ก.ค.-24 ต.ค. 48
ระยะที่ 1 ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ - 14 มีนาคม 2548
ผู้รับผิดชอบเก็บข้อมูล 2 คน
เป็นการสอบถามชาวบ้านที่เป็นคนเก่าแก่เกี่ยวกับข้อมูลพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ ในป่าต้นน้ำผาดำ จำนวน 5 คน
ระยะที่ 2 ระหว่างวันที่ 1-20 กรกฎาคม 2548
ผู้รับผิดชอบเก็บข้อมูล 4 คน
( ความเป็นมาของหมู่บ้านเก่าร้างโดยการสอบถามคนเก่าแก่ของหมู่บ้าน)
ระยะที่ 3 ระหว่างวันที่ 1-20 สิงหาคม 2548
ผู้รับผิดชอบเก็บข้อมูล 7 คน
( ความเป็นมาของสหายและป่าผาดำ โดยการสอบถามสหายที่เคยเข้าป่า )
ระยะที่ 4 วันที่ 4 กันยายน 2548
ผู้รับผิดชอบเก็บข้อมูล 3 คน
( ประวัติความเป็นมาของอำเภอคลองหอยโข่ง โดยการเข้าไปค้นหาในอินเตอร์เน็ต
ระยะที่ 5 วันที่ 25 กันยายน 2548
ผู้รับผิดชอบเก็บข้อมูล 8 คน
( ลักษณะพันธุ์ไม้ต่างๆ โดยการสอบถามจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ )
ระยะที่ 6 วันที่ 28 กันยายน 2548
ผู้รับผิดชอบเก็บข้อมูล 5 คน
( ลักษณะการทำงานของหมูบ้านเก่ร้าง โดยการสอบถามจากผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบการทำงาน
ระยะที่ 7 วันที่ 22-24 ต.ค.48
ผู้ร่วมกิจกรรม 16 คน
( เป็นการเก็บข้อมูลเพิ่มเติมบริเวณส่วนต่างๆของป่าผาดำ )
สรุปผลการดำเนินกิจกรรม
1.มีความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับข้อมูล ที่ได้ร่วมกันเก็บและค้นคว้า
2.ได้มีความกล้าแสดงออกที่จะไปสอบถามกับผู้ซึ่งรู้ข้อมูล
3.รู้จักขั้นตอนในการทำงานกันเป็นทีม
4.ได้ใช้เวลาว่างให้เดประโยชน์แก่ตนเองและบุคคลรอบข้าง
5.สามารถมีข้อมูลไว้ในกลุ่มให้ผู้ซึ่งตองการทราบได้ศึกษาเรียนรู้ต่อไป
6.เป็นประสบการณ์ที่ดีแก่เยาวชนที่ได้ทำกิจกรรม
7.เป็นที่ชื่นชอบแก่ผู้ที่ได้พบเห็นในการทำกิจกรรมเก็บข้อมูล
8.สามารถนำข้อมูลที่ได้มาไปเผยแพร่แก่ผู้ที่ยังไม่ทราบได้
เยาวชนมีความรู้เชิงวิชาการเพิ่มมากขึ้น
ลักษณะภาพรวมโครงการ
ชื่อโครงการ เยาวชนฟื้นฟูสภาพป่าต้นน้ำผาดำเพื่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
ผู้รับผิดชอบโครงการ นางสาวศศิวิมล ทองแก้ว
องค์กรผู้รับผิดชอบโครงการ กลุ่มเยาวชนรักษ์ป่าต้นน้ำผาดำ
คณะทำงานโครงการ
1.นายพรทวี ยูหนู หมู่ 6 ต.คลองหอยโข่ง อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา
2.นายธนานิวัฒน์ ทองแก้ว หมู่ 6 ต.คลองหอยโข่ง อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา
3.นายวุฒิชัย ทองแก้ว หมู่ 6 ต.คลองหอยโข่ง อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา
4.นายภูวดล สุคนธรัตน์ หมู่ 6 ต.คลองหอยโข่ง อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา
5.นายประทีป ดำแป้น หมู่ 5 ต.คลองหอยโข่ง อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา
6.นายชวลิต แก้วชรัตน์ หมู่ 6 ต.คลองหอยโข่ง อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา
7.นายสรวง ทองแก้ว หมู่ 6 ต.คลองหอยโข่ง อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา
8.นายพยุงศักดิ์ คงมัยลิค หมู่ 4 ต.คลองหอยโข่ง อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา
9.น.ส.ใบเฟิร์น สุวรรณมณี หมู่ 6 ต.คลองหอยโข่ง อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา
10.น.ส.ฟาริดา ทองแก้ว หมู่ 6 ต.คลองหอยโข่ง อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา
ที่ปรึกษา
1.ประชาคมรักษ์ป่าต้นนำผาดำ
2.อบต.ประจำหมู่บ้าน
ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้
ศูนย์เรียนรู้เยาวชนรักษ์ป่าต้นน้ำ
หมู่บ้านเก่าร้าง 60/1 ม.6 ต.คลองหอยโข่ง
อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา 90230
โทร.06 - 2951295 / 06 - 2856717
ช่วงเวลาดำเนินการ ระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่ เดือนตุลาคม 2547 ถึงเดือนกันยายน 2548
งบประมาณที่ขอ 120,000 บาท (หนึ่งแสนสองหมื่นบาทถ้วน)
งบประมาณที่ได้รับจากแหล่งอื่น ไม่มี
ความเป็นมา/ความสำคัญของโครงการ
ทางกลุ่มเยาวชนและประชาคมรักษ์ป่าต้นน้ำผาดำได้ร่วมกันวางแผนจัดทำโครงนี้ขึ้นมา เพราะ
ได้ไปพักแรมบริเวณป่าต้นน้ำผาดำ อ. คลองหอยโข่ง จ. สงขลาได้ไปพบกับป่าที่ถูกทำลายโดยการตัดไม้
ทำลายป่าและการบุกแผ้วถางจากผู้บุกรุก
ด้วยทางกลุ่มของประชาคมนั้นรู้จักและมีความสัมพันธ์กับป่ามาเป็นเวลานานหลายปีจึงรู้ว่าสภาพ
ป่านั้นเป็นอย่างไร เคยอุดมสมบูรณ์เพียงใด แต่พอได้เห็นในตอนนี้ป่าก็แตกต่างจากสภาพเดิมไปมาก จึงได้มีการสำรวจพบว่าบริเวณพื้นที่ป่าในอำเภอคลองหอยโข่งทั้งหมด 27,000 ไร่ โดยเฉลี่ยเช่นปี 2546 พื้นที่ป่าถูกทำลายไปแล้วประมาณ 700 ไร่ โดยผู้บุกรุกที่มาจากนอกพื้นที่ ซึ่งนอกจากมีการแปรรูปไม้แล้วยังทำโรงจักร(ทำยางแผ่น) ปล่อยน้ำเสียลงไปสู่แม่น้ำลำคลอง รวมถึงบริเวณทางเดินไปน้ำตก มีปัญหาขยะเต็มไปหมด สาเหตุเกิดจากผู้ที่ขึ้นไปท่องเที่ยวน้ำตกผาดำทิ้งขยะทำให้ขยะเพิ่มมากขึ้นซึ่งทำลายสิ่งแวดล้อมอีกด้วยเพราะเมื่อขยะสะสมอยู่ในแหล่งน้ำมาก ๆ จะทำให้น้ำเน่าเสียซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์และสัตว์ ผลที่เกิดขึ้นตามมาในช่วงเวลาอันเดียวกัน คือชาวบ้านที่ใช้น้ำจากป่าต้นน้ำผาดำได้รับอันตรายต่อสุขภาพจากการปล่อยน้ำเสียจากโรงทำยางแผ่นลงในคลองทำให้น้ำเน่าเสียและเกิดอาการคันเวลาลงไปเล่นน้ำในคลอง การตัดไม้ทำลายป่าและการแผ้วถางและเรื่องขยะถ้าหากปล่อยไว้นาน ๆ จะทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ขาดน้ำใช้ในการอุปโภคบริโภค ซึ่งทางประชาคมและเยาวชนเห็นว่าถ้าเกิดปล่อยไว้จะเป็นปัญหาที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จะทำให้มีผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำจากป่าต้นน้ำผาดำไปสู่ทะเลสาบสงขลาจึงได้ลงความเห็นกันว่าควรที่จะจัดตั้งกลุ่มแกนนำในการอนุรักษ์ป่าไว้ซึ่งมีชื่อว่า กลุ่มเยาวชนรักษ์ป่าต้นน้ำผาดำ เพื่อจะได้ลดปัญหาต่าง ๆ เช่นการตัดไม้ทำลายป่าการบุกรุกแผ้วถางและปัญหาขยะอีกทั้งปัญหาน้ำเสีย
การทำงานของทางกลุ่มเยาวชน คือ การเฝ้าระวังป่าต้นน้ำ การจัดค่ายอนุรักษ์ และ
การหาเครือข่ายในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่ออันเป็นสิ่งที่เอื้อให้เกิดสุขภาพที่ดีของทุกคนต่อไป การดำเนินงานของกลุ่มเยาวชนยังขัดข้องอยู่เพราะไม่มีงบประมาณในการดำเนินงานกิจกรรม จึงเขียนโครงการขอรับงบสนับสนุนในการดำเนินกิจกรรมของกลุ่มขึ้นมาในครั้งนี้
วัตถุประสงค์
1 . เพื่อปลูกจิตสำนึกในการหวงแหนและอนุรักษ์ป่า
2 . เพื่อเสริมสร้างสุขภาวะและความเข้มแข็งในกลุ่มเยาวชนรักษ์ป่าต้นน้ำผาดำ ดังนี้
2.1 เรื่องของสุขภาวะที่สมบูรณ์มี 4 ด้าน
สุขภาพร่างกาย คือ เมื่อมีการเดินป่าสำรวจป่าด้วยกิจกรรมเฝ้าระวังซึ่งเป็นการออกกำลังกายไปในตัวซึ่งจะทำให้ร่างกายแข็งแรง มีสุขภาพดี และการที่ได้รับอากาศบริสุทธิ์ก็มีผลทำให้สมองปลอดโปร่ง
สุขภาพจิต คือ เมื่อได้ร่วมทำกิจกรรมเรียนรู้กับกลุ่มอื่น ๆ หรือ กลุ่มเยาวชนเราเองก็
จะทำให้เราได้รับสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน จะเกิดความรักสมัครสมาน มีจิตใจสามัคคี มีความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ซึ่งจะส่งผลด้านสุขภาพจิตของกลุ่มเยาวชนไปในทางที่ดีไปด้วย
สุขภาพทางสังคม คือ เมื่อจัดตั้งกลุ่มเยาวชนขึ้นก็ได้รับการร่วมมือจากผู้ที่เข้าใจ
โครงการนี้ มีการขยายเครือข่ายในระดับอำเภอ จะทำให้เกิดการทำงาน มีกิจกรรมความสัมพันธ์ระหว่างชุมชน สังคมมากขึ้น ผ่านการดำเนินการของกลุ่ม แม้อาจจะขัดแย้งกับผู้ที่เสียผลประโยชน์ไปบ้าง แต่ต่อไปอาจจะทำให้สถานการณ์เช่นนี้เปลี่ยนไปในทางที่ดีได้ กลุ่มเยาวชนตั้งใจที่จะทำโครงการนี้เพื่อสร้างความตระหนักให้กับผู้ที่บุกรุกเข้าใจ เพื่อเป็นการร่วมสร้างสุขภาพสังคมที่ดีของทุกคน
สุขภาพจิตวิญญาณ คือ เมื่อมีโครงการนี้ขึ้นมาทำให้ผู้ที่ได้รับรู้เล็งเห็นถึง
ความสำคัญและปลูกฝังจิตสำนึกนำไปสู่ความหวงแหนธรรมชาติ จิตใจที่ไม่ได้คิดถึงประโยชน์ส่วนตนได้สัมผัสกับธรรมชาติจะนำไปสู่พื้นฐานของสุขภาพทางจิตวิญญาณที่ดี
2.2 เพื่อรวบรวมองค์ความรู้และประสบการณ์ในการทำกิจกรรม เช่น
ความรู้เรื่องเกี่ยวกับพันธุ์ไม้ว่าในป่าผาดำมีต้นไม้ที่สำคัญอะไรบ้าง เช่น ต้นตะเคียน ต้นหลุมพอ ต้นกฤษณา เป็นต้น
ความรู้เรื่องเกี่ยวกับพันธุ์สัตว์ที่สำคัญ เช่น ชะนี สมเสร็จ นกเงือก เป็นต้น
ความรู้เกี่ยวกับประวัติของป่าผาดำ
ได้รู้วิธีการดำเนินงานในการทำกิจกรรมของแต่ละครั้ง
ได้ฝึกการเป็นผู้นำที่ดี
3 .เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับป่าผาดำ โดยจัดทำเอกสารเป็นรูปเล่ม
4.เพื่อลดปริมาณขยะในบริเวณป่าผาดำ
5.เพื่อลดปริมาณการตัดไม้ทำลายป่าและการบุกรุกแผ้วถาง
กลุ่มเป้าหมาย
1 . กลุ่มเยาวชนรักษ์ป่าต้นน้ำผาดำ 20 คน
2 . กลุ่มผู้สนในกิจกรรมการอนุรักษ์ป่า 20 คน
3 . กลุ่มเยาวชนบริเวณรอบป่าต้นน้ำผาดำในอำเภอคลองหอยโข่ง 50 คน
วิธีดำเนินงาน
1.จัดค่ายเพื่อการเรียนรู้
2.เฝ้าระวังป่าต้นน้ำผาดำ
3.การเก็บข้อมูล และเวทีย้อนรอยค้นหาอดีตป่าผาดำ
4.จัดค่ายผู้นำ
รายละเอียดกิจกรรม
กิจกรรมที่ 1 ค่ายเพื่อการเรียนรู้
กลุ่มเป้าหมาย
1.กลุ่มเยาวชนรักษ์ป่าต้นน้ำผาดำ 20 คน (แกนนำ)
2.กลุ่มเยาวชนบริเวณรอบป่าต้นน้ำผาดำ 50 คน
3.กลุ่มผู้สนใจในกิจกรรมอนุรักษ์ป่า 20 คน
ระยะเวลา 2 คืน 3 วัน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1.สร้างความสัมพันธ์ไนการทำงานเป็นเครือข่าย
2.ทำให้ผู้ที่มีเวลาว่างได้เข้ามาร่วมทำกิจกรรมได้ ความรู้ความสนุกสนานเพื่อสุขภาพร่างกายและจิตใจที่ดี ดีกว่าการนำเวลาว่างเหล่านี้ไปยุ่งเกี่ยวข้องกับ อบายมุขสิ่งเสพติดต่าง ๆ ซึ่งจะนำไปสู่สุขภาพร่างกายและจิตใจที่เสื่อมโทรมได้
3.สร้างจิตสำนึกหรือจิตใจที่ดีในการรักและหวงแหนป่า
งบประมาณ รวมทั้งสิ้น 45,000 บาท
ดังรายละเอียด 1.ค่าอาหาร 100 คน x 7 มื้อ x 50 บาท = 35,000 บาท
2.ค่าประสานงาน = 3,000 บาท
3.ค่าอุปกรณ์ = 2,000 บาท
4.ค่าวิทยากร(5x500x2) = 5,000 บาท
กิจกรรมในค่ายเรียนรู้
1 เดินทางขึ้นบริเวณที่พัก (กิจกรรมเดินป่า) มี 4 ฐาน
ฐานที่ 1 มีวิทยากรอธิบายเกี่ยวกับพันธุ์สัตว์ป่า หรือพันธุ์ไม้ซึ่งเป็นระบบนิเวศที่สำคัญต่อมนุษย์ ฐานที่ 2 เกมส่งเสริมความสามัคคีและเชิงอนุรักษ์เมื่อเราได้ร่วมกับเพื่อน ๆ ทั้งสุขภาพร่างกาย
และจิตใจที่ดีตามมา
ฐานที่ 3 มีวิทยากรอธิบายประวัติของป่าต้นน้ำผาดำซึ่งเป็นความรู้ที่สมควรรู้เพราะเป็นป่าที่มี
ประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต
ฐานที่ 4 ถาม - ตอบ ปัญหาชิงรางวัลเกี่ยวกับป่าต้นน้ำผาดำเพื่อการคิดและการจดซ้ำ ๆ ทำให้
สุขภาพร่างกายทางด้านสมองได้ฝึกฝน
2 กิจกรรมรอบกองไฟ
คืนแรก - แนะนำตัว เพื่อให้ทุกคนในค่ายได้รู้จักกันมากยิ่งขึ้น
- แลกเปลี่ยนความคิดเห็นว่าในระหว่างการเดินทางมานั้นแต่ละคนได้รับอะไรบ้าง
เหนื่อยหรือสนุก หรือได้ออกกำลังกาย
คืนที่สอง - แสดงความรู้สึกว่ามีความรู้สึกเช่นไรบ้างในการมาค่ายอนุรักษ์ครั้งนี้และกลับไปปฏิบัติได้อย่างไรบ้าง (แผนการดำเนินงานหลังจากนี้ของสมาชิกแต่ละคน แต่ละกลุ่ม)
3 กิจกรรมศึกษาสำรวจป่าต้นน้ำผาดำ
ดูพระอาทิตย์ขึ้นยังลานผาดำ เมื่อได้ไปพบเห็นจะทำให้จิตใจแจ่มใส เพราะได้เห็นสภาพ
ป่าที่เขียวชอุ่ม แสงพระอาทิตย์ และมีเมฆหมอกมีนกบินสวยงามมีสุขภาพจิตที่ดีสดชื่นแจ่มใส
เดินทางไปยังสันปันน้ำหรือต้นน้ำเพื่อไปศึกษาลักษณะของสันปันน้ำว่าเป็นอย่างไรและ
จะได้คิดว่านี่แหละคือแหล่งกำเนิดของน้ำที่ได้ใช้อุปโภคบริโภคเพื่อสุขภาพของเรา
กิจกรรมที่ 2 : เฝ้าระวังป่าต้นน้ำผาดำ (เดินสำรวจ)
กลุ่มเป้าหมาย 1.เยาวชนรักษ์ป่าต้นน้ำผาดำ
2.ประชาคมรักษ์ป่าต้นน้ำผาดำ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของกลุ่มเยาวชน รวม 20 คน
ระยะเวลา เดือนละ 2 ครั้ง รวม 24 ครั้งต่อปี
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1 ลดการตัดไม้ทำลายป่าและการบุกรุกแผ้วถางเพราะถ้าเกิดว่าป่านี้ถูกทำลายไปมากขึ้นอีกก็จะ
ทำให้ประสบกับปัญหาการขาดแคลนน้ำในการอุปโภคและบริโภค
2 ลดปริมาณขยะเพราะว่าขยะนั้นจะเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมอาจจะทำให้น้ำเสียได้ซึ่งเมื่อเราได้ใช้น้ำเสียในการอุปโภคและบริโภคจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพและร่างกายและสุขภาพจิตใจก็เสื่อมด้วยเพราะจะทำให้เราหงุดหงิดที่ได้ใช้น้ำที่เน่าเสียไม่มีคุณภาพ
3 เกิดการเฝ้าระวังไม่ให้มีการทำลายป่าหรือสร้างจิตสำนึกที่ดีแก่ผู้ที่ได้ร่วมกระทำและผู้ที่ได้รับรู้เกี่ยวกับกิจกรรมเฝ้าระวัง นอกจากเราจะได้ออกกำลังกายแล้วเราก็จะสบายใจที่ได้กระทำสิ่งที่มีประโยชน์ต่อสังคม
งบประมาณ รวมทั้งสิ้น 24,000 บาท
ดังรายละเอียด
1 ค่าอาหาร 24 ครั้ง x 1,000 บาท (50บาทต่อคนต่อครั้ง) = 24,000 บาท
กิจกรรมที่ 3 : การเก็บข้อมูล และเวทีย้อนรอย
กลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเยาวชนรักษ์ป่าต้นน้ำผาดำ
ระยะเวลา 4 เดือน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ ได้รู้ฐานข้อมูลที่แน่นอนของป่าต้นน้ำผาดำเพื่อจะได้นำข้อมูลที่ได้เผยแพร่ต่อผู้ที่เขามาร่วมทำกิจกรรมกับทางกลุ่มเยาวชนไม่ว่าเป็นชาวต่างชาติ หรือบุคคลภายนอกก็ตามรวมถึงผู้ที่ต้องการจะรับรู้ข้อมูล
งบประมาณ รวมทั้งสิ้น 25,000 บาท
ดังรายละเอียด
1. ค่าเบี้ยเลี้ยง(ทีมเก็บข้อมูล) เหมาจ่าย(5 คน x3000 บ.) 15,000 บาท
2.ค่าวัสดุอุปกรณ์ในการจัดพิมพ์เอกสาร 5,000 บาท
3.ค่าอาหาร (เวทีย้อนรอย) 5,000 บาท
รายละเอียดกิจกรรม
1 รวบรวมข้อมูลสิ่งดี ๆ ของป่าผาดำ เช่น
สมุนไพรที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย
พันธุ์สัตว์ป่าและพันธุ์ไม้
ประวัติความเป็นมาของป่าต้นน้ำผาดำ
2 เวทีย้อนรอย
จัดเวทีนำเสนอข้อมูลของโครงการที่ได้จากการรวบรวมข้อมูลของชุมชนผู้นำ
ท้องถิ่นและภูมิปัญหาท้องถิ่น
กิจกรรมที่ 4 : ดูงานและฝึกความเป็นผู้นำ
กลุ่มเป้าหมาย เยาวชนรักษ์ป่าต้นน้ำผาดำ
วิธีการ ศึกษาดูงานของเครือข่ายป่าเทือกเขาบรรทัด พร้อมกับได้ฝึกทักษะความเป็นผู้นำผ่านเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในแต่ละพื้นที่เป้าหมาย
ดูกิจกรรมการดำเนินงานพิทักษ์ป่าของเครือข่าย
เยาวชนฝึกทักษะการพูด การนำเสนอ และทักษะความเป็นผู้นำ
สถานที่จัดกิจกรรม
1 บ้านในเตา อ. ห้วยยอด จ. ตรัง (2 คืน)
2 เทือกเขาบรรทัด อ.นาโยง จ. ตรัง (2 คืน)
3 บ้านเหมก ต. ละมอ อ. ละมอ จ. ตรัง (2 คืน)
ระยะเวลา 7 วัน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1 เยาวชนมีความเป็นผู้นำกล้าแสดงออกกล้าพูดในโอกาสต่าง ๆ
2 ได้ความรู้สามารถนำไปปฏิบัติใช้ในชีวิตประจำวัน
3 สามารถนำผลที่ได้จากการไปศึกษาจากกลุ่มอื่น ๆ ว่ามีส่วนไหนที่สามารถนำมาเป็นแนวทางการพัฒนาทางกลุ่มตนเองบ้าง เช่น กลุ่มที่ได้มีโอกาสไปเรียนรู้มีกิจกรรมที่พัฒนาด้านสุขภาพหรือด้านสังคมที่มีคุณภาพเราก็นำมาเป็นแบบอย่างในการพัฒนาสุขภาพและสังคมทางกลุ่มเราได้
งบประมาณ รวมทั้งสิ้น 26,000 บาท
ดังรายละเอียด
1.ค่าอาหาร เหมาจ่าย 15,000 บาท
2.ค่าวิทยากร 5,000 บาท
3.ค่าบำรุงสถานที่(จัดเวทีพูดคุย) 6,000 บาท
ตัวชี้วัดความสำเร็จ/ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1 เกิดเครือข่ายเยาวชนรักป่าผาดำระดับอำเภอคลองหอยโข่ง 2 เกิดฐานข้อมูลองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับป่าต้นน้ำผาดำ 3 ปริมาณขยะลดลง 4 ได้องค์ความรู้ของป่าต้นน้ำผาดำ 5 ปริมาณการตัดไม้ทำลายป่าและการบุกรุกแผ้วถางลดน้อยลง 6 เยาวชนสามารถเป็นผู้นำที่ดีได้ 7 เกิดสุขภาพสมบูรณ์ทั้ง 4 ด้าน คือ 1 สุขภาวะร่างกาย 2 สุขภาวะจิตใจ 3 สุขภาวะสังคม 4 สุขภาวะจิตวิญญาณ
การประเมินผล
1. กิจกรรมค่ายเรียนรู้ :ออกแบบสอบถามให้กับทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมการเข้าค่ายเรียนรู้เพื่อจะสรุปว่ากิจกรรมค่ายเรียนรู้มีผลสำเร็จมากน้อยเพียงใด
2.กิจกรรมเฝ้าระวังป่าต้นน้ำผาดำ :ทุก 1เดือน เยาวชนและประชาคมจะประชุมเพื่อประเมินผลการตัดไม้การแผ้วถางลดน้อยลงหรือไม่ ถ้าการตัดไม้หรือการแผ้วถางลดน้อยลงก็แสดงว่ากิจกรรมที่เราทำไปก็ประสบผลสำเร็จไปแล้วขั้นหนึ่ง
3.กิจกรรมการเก็บข้อมูลและเวทีย้อนรอย
สรุปจากข้อมูลที่ได้จากสำรวจ
สรุปจากเยาวชนและประชาคมว่ามีความรู้เกี่ยวกับป่าผาดำมากน้อยเพียงใด
4.ค่ายฝึกผู้นำ : ดูจากพฤติกรรมของผู้ที่เข้าค่ายฝึกผู้นำว่ากล้าแสดงออกมากน้อยเพียงใด
กลยุทธ์ที่นำไปสู่ความต่อเนื่องยั่งยืนของโครงการ
1 การมีสมาชิกเพิ่มขึ้นและเต็มใจที่มาร่วมเป็นอาสาสมัครเยาวชนรักษ์ป่าต้นน้ำผาดำต่อไป
2 มีแนวร่วมกับคนวัยอื่น ๆ และจากหมู่บ้านอื่น ๆ เพิ่มมากขึ้น
3 มีการประสานงานกับหน่วยงานในท้องถิ่นเพื่อช่วยกันสนับสนุนให้น้อง ๆ เยาวชนรุ่นหลังได้ทำกิจกรรมการอนุรักษ์ป่าได้ต่อไป
4. กิจกรรมการดำเนินงาน
1.ค่ายผู้นำ
2.เฝ้าระวังป่าต้นน้ำผาดำ
3.จัดค่ายเพื่อการเรียนรู้
4.เก็บข้อมูล
รายละเอียดกิจกรรม
กิจกรรมที่ 1 ค่ายผู้นำ
กลุ่มเป้าหมาย = เยาวชนรักษ์ป่าต้นน้ำผาดำ
วิธีการ = ศึกษาดูงานตามสถานที่ต่างๆใน จ. พัทลุง จ. นครศรีธรรมราช และ จ. กระบี่ พร้อมทั้งได้ฝึกทักษะการเป็นผู้นำในหัวข้อต่างๆผ่านเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ฝึกด้านการพูด
ฝึกด้านบุคลิก
ฝึกการใช้สายตาในระหว่างการพูด
ฝึกการใช้มือ
ฝึกด้านการคิดวิเคราะห์ในขณะพูด
ฟังการบรรยายความรู้ความเข้าใจเรื่องการเป็นผู้นำ
สถานที่จัดกิจกรรม
1.ต. ห้วยพูด จ. พัทลุง
2.อ. ทุ่งสง จ. นครศรีธรรมราช
3.จ. กระบี่
ระยะเวลา = 7 วัน ( วันที่ 17 - 23 ตุลาคม 2547 )
สิ่งที่คาดว่าจะได้รับ
1.เยาวชนมีความเป็นผู้นำกล้าแสดงออกกล้าพูดในโอกาสต่างๆ
2. สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้
3.สามารถนำผลที่ได้จากการไปศึกษาจากกลุ่มอี่นๆ ว่ามีส่วนไหนที่สามารถนำมาเป็นแนวทางการพัฒนาทางกลุ่มตนเองบ้าง เช่น กลุ่มที่ได้มีโอกาสกาเรียนรู้มีกิจกรรมที่พัฒนาด้านสุขภาพหรือด้านสังคมที่มีคุณภาพเราก็นำมาเป็นแบบอย่างในการพัฒนาสุขภาพและสังคมทางกลุ่มเราได้
งบประมาณ = รวมทั้งสิ้น 26,000 บาท
ดังรายละเอียด 1.ค่าอาหารเหมาจ่าย 15,000 บาท
2.ค่าวิทยากร 5,000 บาท
3.ค่าบำรุงสถานที่ 6,000 บาท
กิจกรรมภายในค่ายผู้นำ
ด้านการพูด = เยาวชนได้รับความรู้ในเรื่องทักษะการพูด จะต้องพูดให้ดึงดูดใจผู้ฟังและพูดให้ผู้ฟังสามคิดตามและนึกภาพออกได้ พูดแบบยกตัวอย่างเพื่อความเข้าใจของผู้ฟัง ควรมีสติ และใจเย็นในการพูด ( ลงมือปฏิบัติรายบุคคล )
ด้านการยืน = ควรยืนโดยให้เท้าอยู่ในลักษณะนาฬิกาในช่วงบ่ายสองโมง ไม่ควรยืนตัวแข็งหรือเกร็ง ( ฝึกยืนประเมินรายบุคคล )
ด้านการใช้สายตาขณะพูด = ไม่ควรหลบตาผู้ฟัง ควรจะมองไปยังผู้ฟังแล้วทำความเข้าใจร่วมกันด้วยสายตา ( ฝึกการใช้สายตาประเมินรายบุคคล )
ด้านการใช้มือ = มือไม่ควรทำปฏิกริยาที่ไม่เหมาะสม เช่น เกาศีรษะ และจมูก เป็นต้น ควรใช้สัญลักษณ์ในการพูด เพื่อความเข้าใจมากขึ้น ( ฝึกใช้มือประเมินรายบุคคล )
ด้านการคิด = ควรคิดเรียบเรียงหัวข้อในการพูดเอาไว้ และเมื่อพูดไปแล้วควรคิดต่อไปว่าต่อไปเราจะพูดอะไรต่อ และพูดไปอย่างเป็นระบบ
ด้านความรู้ความเข้าใจ = ความเป็นผู้นำไม่ใช่ว่าจะเก่งเพียงอย่างเดียว จะต้องมีคุณสมบัติตามมาคือ เป็นคนที่มีอัธยาศัยดี อดทน รู้จักวางแผน มีความคิดที่หลากหลาย มีความรับผิดชอบ กล้าที่จะทำสิ่งที่ตนไม่เคยทำและเป็นประโยชน์ต่อต
Relate topics
