สงขลาพอเพียง : เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพจังหวัดสงขลา - Songkhla Health

หนุนเสริมภาคี ประสานความร่วมมือ

ห้ามโฆษณาเหล้า จะลดการดื่มเหล้าได้จริงหรือ

by kai @18 ก.พ. 49 22:39 ( IP : 58...246 ) | Tags : มุมมองหมอ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  นายพินิจ  จารุสมบัติ  มาเป็นรัฐมนตรีดูแลเรื่องสุขภาพประชาชนได้ไม่นาน  แต่ก็ได้สร้างความฮือฮาไม่น้อย  โดยเฉพาะการประกาศนโยบายสาธารณะด้านสุขภาพที่จะลดการสูบบุหรี่และการดื่มเหล้าในสังคมไทย  ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขประกาศเดินหน้าจะประกาศให้มีการ  " ห้ามการโฆษณาเหล้า สุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ โดยเด็ดขาด " โดยเป็นกลวิธีเดียวกับการห้ามการโฆษณาบุหรี่  ซึ่งเป็นกลวิธีที่ได้ผลสูงสุดในการลดการบริโภคยาสูบ  และเป็นข้อกำหนดที่บริษัทบุหรี่เกลียดที่สุด

กรณีของการห้ามโฆษณาเหล้าสุราโดยเด็ดขาดนั้น  หากทำได้จริงสังคมไทยคงจะมีความสุขขึ้นไม่น้อย  เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า  เหล้าคือต้นเหตุแห่งความรุนแรงในครอบครัว  เหล้าคือยมทูตเวลาเมาแล้วขับ  เหล้าทำให้คนจนยากจนลงอีกและรุมเร้าด้วยหนี้สิน  และที่สำคัญ  เหล้าเป็นเหตุสำคัญในการวิวาททำร้ายร่างกาย  และเป็นปฐมบทของการเดินไปสู่สิ่งเสพติดชนิดอื่นๆ

แน่นอนว่าการประกาศห้ามการโฆษณาเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์โดยเด็ดขาดนั้น  แรงต้านย่อมมีแน่  และจะมีมากด้วย  บริษัทเหล้าน้องใหม่หรือบริษัทที่ตลาดยังเล็กก็โอดครวญว่า  หากทำเช่นนี้ก็เหมือนการช่วยให้ปลาใหญ่กินปลาเล็ก  อุ้มบริษัทเหล้ารายใหญ่ที่ติดตลาดแล้ว  เป็นการทำลายรายเล็กให้เฉาตายอย่างแน่นอน    ส่วนธุรกิจรายใหญ่ก็ทำเป็นโวยว่า  หากมีการห้ามการโฆษณาธุรกิจจะทรุด  ซึ่งในความเป็นจริงอาจไม่ทรุดลงเลยเพราะกินส่วนแบ่งปลาเล็กเพิ่มขึ้นมาอีก  จะส่งผลต่อตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศ  การจ้างงานลดลง  ธุรกิจต่อเนื่องจะกระทบไปด้วย

กรณีการห้ามโฆษณาเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์นั้น  จะทำให้คนไทยดื่มสุราน้อยลงจริงหรือ  เป็นคำถามที่ผู้คนที่สนใจประเด็นปัญหาสังคมอาจต้องช่วยกันวิเคราะห์

สำหรับผมแล้ว  ผมเห็นว่ากลไกห้ามการโฆษณานี้เพียงกลไกเดียวอาจลดการดื่มเหล้าลงได้น้อยมาก  แต่คนจะบริโภคเหล้าน้อยยี่ห้อลงแน่ๆ  เพราะยี่ห้อใหม่คงแจ้งเกิดได้ยาก  ดังนั้นกลวิธีที่ต้องเดินควบคู่กันเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการลดจำนวนผู้ดื่มสุราที่มีความสำคัญยิ่งคือ  การทำให้เหล้าเบียร์มีราคาแพง  แพงจนต้องซื้อมาดื่มให้น้อยลงเพราะเงินในกระเป๋ามีจำกัด

หากกระทรวงการคลังจะสร้างนโยบาย " การคลังเพื่อสังคม " ให้เป็นจริงแล้ว  จะต้องขึ้นภาษีสุราด้วย  ไม่ใช่เพียงแค่ห้ามการโฆษณาเท่านั้น  ปัจจุบันเบียร์สิงสาราสัตว์ยังราคา 3 ขวดร้อย และเชื่อด้วยซ้ำว่า  เมื่อห้ามโฆษณาเหล้า  ราคาของเหล้าเบียร์จะถูกลง  เจ้าของโรงเหล้าจะยอมลดกำไรที่มหาศาลลงไปบ้าง  เพื่อเพิ่มยอดขายเพิ่มยอดการบริโภค  เบียร์สิงห์สาราสัตว์อาจจะ 4 ขวดร้อยหรือ 5 ขวดร้อยก็ได้  จึงเป็นภารกิจของเราทุกคนที่ต้องช่วยกันทำให้รัฐบาลมีความจริงจังในการลดการบริโภคเหล้ามากกว่านี้  สร้างนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพที่จริงจังและสอดประสานให้เกิดสัมฤทธิ์ผลอย่างแท้จริง  ด้วยการขึ้นภาษีเหล้า เบียร์ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อีกเป็นเท่าตัว  เชื่อว่าด้วย 2 มาตรการนี้ที่แข็งขัน  จะลดการดื่มเหล้าดื่มเบียร์ของคนไทยลงได้อย่างแน่นอน

ภาษีสุราที่เก็บได้  ก็ไม่ต้องเอาไปไหน  ควรจะจ่ายกลับเข้ามาในระบบสุขภาพ  ไม่ว่าเข้ากองทุน สสส.  หรือจ่ายล้างหนี้ให้กับโรงพยาบาลที่ขาดทุนจาการดำเนินโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค  เพราะส่วนหนึ่งที่เป็นภาระใหญ่ของโครงการ 30 บาทก็เป็นผลพวงจากดื่มเหล้านั่นเอง  ไม่ว่าโรคตับแข็ง ตับอักเสบ  การบาดเจ็บจากการทำร้ายร่างกาย  อุบัติเหตุจราจร  รวมทั้งโรคมะเร็ง  ซึ่งล้วนแต่เป็นภาระค่าใช้จ่ายสูงในการดูแลรักษาอย่างเรื้อรังทั้งสิ้น

หากไม่มีการขึ้นภาษีเหล้าเบียร์แล้ว  ลำพังการห้ามการโฆษณาโดยเด็ดขาด  อาจได้ผลเพียงการเป็นเครื่องมือกำจัดคู่แข่งของนายทุนโรงเหล้าขนาดใหญ่เท่านั้น

ขออภัย ขณะนี้เว็บไซท์ของดการสร้างหัวข้อใหม่และการแสดงความคิดเห็นไว้ชั่วคราว