สงขลาพอเพียง : เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพจังหวัดสงขลา - Songkhla Health

หนุนเสริมภาคี ประสานความร่วมมือ

โรงเรียนประสบการณ์ชีวิต“ไม่อยากเป็นเหยื่อบนถนน”

by kai @11 ก.ค. 50 20:13 ( IP : 124...86 ) | Tags : แนะนำเครือข่าย
photo  , 1520x1140 pixel , 588,579 bytes.

อัจจิมา พรรณนา  นักวิชาการสาธารณสุข  สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา เล่าถึงสถานการณ์อุบัติเหตุของจังหวัดสงขลา ณ ปัจจุบัน

" 80 % เกิดจากการไม่สวมหมวกกันน็อค  สาเหตุอื่นเกี่ยวกับการขับรถซิ่ง ไม่เคารพฏจราจร  โดยเฉพาะการขับขี่ขณะเมาสุรา ทำให้เกิดการสูญเสียมากเพราะ อยู่ในสภาพปราศจากการควบคุม"

รถเยอะขึ้นทุกวัน ,วิธีการขับขี่, การดื่มสุรา, สภาพถนน และ สภาพภูมิอากาศ ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงได้ทั้งสิ้น  สาเหตุหลักอยู่ที  คน ถนน รถ  ส่วนสภาพดินฟ้าอากาศเป็นปัจจัยเสริมเข้ามาอีกด้วย

เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาแต่ละครั้ง คนที่รับกระทบโดยตรงก็คือเหยื่อบนท้องถนนเหล่านั้น  ความสูญเสียทั้งชีวิต ทรัพย์สิน อาชีพ ครอบครัว ทุกสิ่งทุกอย่างอาจจบลงเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ขณะสังคมใหญ่และประเทศชาติต้องรับภาระกับปัญหาเหล่านี้ด้วยโดยมี5 ยุทธศาสตร์ของรัฐบาลต่อปัญหาดังกล่าว

ในกรอบของแผนสุขภาพ จังหวัดสงขลา  อัจจิมาเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดกิจกรรมลดอุบัติเหตุจราจรมากมายหลายโครงการ  หนึ่งในนั้นคือการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ "ไม่อยากเป็นเหยื่อบนถนน" เมื่อ 4 มิถุนายน 2550 ที่ผ่านมา ที่โรงแรมหาดใหญ่พาราไดส & รีสอร์ท อำเภอหาดใหญ่  ผู้ร่วมประชุมมาจากศูนย์เครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ จังหวัดสงขลา

สมาชิกของศูนย์เครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ จังหวัดสงขลา ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 30 กว่าคน บุคคลซึ่งอยู่ในสภาพพิการ แขน ขา หรือกระทั่งสมองที่ต่างได้รับความกระทบกระเทือนมาจากอุบัติเหตุ มาจากหลายแหล่งทั่วสงขลา  ผลพวงจากอุบัติเหตุหลายประเภท  เป็นเหยื่อตั้งแต่คนเดินถนนไปจนกระทั่งขับรถยนต์
แน่นอนว่าพวกเขาเป็นเพียงส่วนหนึ่ง เพราะยังมีอีกมากที่ยังไม่พร้อมออกมาทำกิจกรรมร่วมกับคนอื่น  แต่อนาคตน่าจะเป็นกลุ่มใหญ่ที่จะมาทำงานช่วยสังคม เพราะหลายคนที่มาเข้าร่วมแล้ว ทำให้เห็นว่า มาด้วยใจจริงๆ แม้ไม่พร้อม ทั้งทางกายและทางอื่น  บางคนมีความมุ่งมั่นที่จะเข้าร่วมมาก  ลงทุนเดินทางมาด้วยตนเอง

การประชุมเชิงปฏิบัติการ "ไม่อยากเป็นเหยื่อบนถนน" นอกจากจะให้ความรู้ สร้างพลังใจให้กับผู้ประสบอุบัติเหตุที่ทำให้ชีวิตของพวกเขาพลิกผันกลายเป็นผู้พิการในชั่วพริบตาจากอุบัติเหตุ    หลายคนดีใจที่รู้ว่าตัวเองมีค่ากับสังคมและไม่คิดว่าจะมีโอกาสเช่นนี้มาก่อน

ส่วนสำคัญของกิจกรรมดังกล่าวเพื่อฝึกอบรมให้ เหยื่อเมาแล้วขับเหล่านี้ เป็นวิทยากร สำหรับการเผยแพร่ รณรงค์การเมาไม่ขับ ให้กับสังคมต่อไป

หลังจากการฝึกอบรมในครั้งนั้นเหยื่อเมาแล้วขับ จึงได้เดินหน้าร่วมกิจกรรมสร้างจิตสำนึกลดอุบัติเหตุจราจรในสถานศึกษา ในฐานะวิทยากร  โดยเริ่มครั้งแรกที่ โรงเรียนโป๊ะหมอ อำเภอหาดใหญ่  เมื่อ  21 มิถุนายน  2550  ถัดจากนั้นอีกวันหนึ่ง กิจกรรมเดียวกันจัดที่ โรงเรียนบ้านเขาแดง อำเภอสิงหนคร
กิจกรรมดังกล่าวยังจัดแล้วที่โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย 2 และกำลังจะจัดที่โรงเรียนมหาวิชราวุธ จังหวัดสงขลา และโรงเรียนสงขลาวิทยาคม  หลังจากนั้นจะมีการของบประมาณในการดำเนินการต่อไปตามสถานศึกษาอื่นอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ  โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา เพื่อให้เกิดประโยชน์กับเยาวชนและสังคม พร้อมชักชวนหน่วยงานที่มีส่วนกับเรื่องดังกล่าวเข้ามาร่วมด้วย เช่น ตำรวจ ซึ่งเข้ามาร่วมเป็นวิทยากร เป็นต้น

"วิทยากรที่เป็นเหยื่อเมาแล้วขับ จะเล่าประสบการณ์ของเขาว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต  ชีวิตปัจจุบันอยู่อย่างไร  ทำอะไร ข้อคิดเตือนสติว่าอย่าได้เป็นเช่นพวกเขา พอเล่าเรื่องแบบนี้แล้ว บางคนน้ำตาร่วงเลย แล้วเขาจะะถามเด็กว่าอยากเป็นเช่นพวกเขาไหม  เด็กที่ฟังอย่างตั้งใจ ก็จะบอกว่าไม่อยากเป็น"
นั่นเป็นการสร้างจิตสำนึก ให้เด็กในเรื่องการใช้รถใช้ถนน การระมัดระวังอุบัติเหตุอันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาถ้าประมาท  ซึ่งทีมงานผู้จัดโครงการคิดว่าน่าจะให้อะไรกับเด็กได้เยอะ ในการนำเอากรณีศึกษาไปพูด ไปพบ โดยตนเองแทนการเรียนรู้ทั่วไป  กิจกรรมต่างๆ ยังจัดอย่างน่าสนใจไม่ว่า  การเล่นเกม แจกของขวัญ (หมวกกันน็อค) ประกวดคำขวัญ  เปลี่ยนแปลงให้เข้ากับความสนใจของกลุ่มเด็กที่ไปพบ ดวงดาว รัตนะ วิทยากรจากเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ จังหวัดสงขลา เล่าว่า  สมาชิกของเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ กระจายอยู่ทั่วจังหวัดสงขลา การดำเนินโครงการกิจกรรมสร้างจิตสำนึกลดอุบัติเหตุจราจรในสถานศึกษา  จึงแบ่งงานเป็นวิทยากรออกไปตามพื้นที่ใกล้เคียงที่พำนัก  โดยมีรถจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารับถึงที่บ้าน  เพราะส่วนมากเป็นผู้นั่งต้องอยู่บนรถเข็น สาเหตุที่หลายคนต้องพิการเพราะอุบัติเหตุ สาเหตุหลายอย่างไม่ว่า ไม่ใส่หมวกกันน็อค  ไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่  และเมาแล้วขับ
"ส่วนใหญ่จะเล่าประสบการณ์อุบัติเหตุให้เด็กฟัง" ดวงดาวว่า

เรื่องของเธอ จะมีว่า เป็นเด็กสาวคนหนึ่งเกิดที่ ตำบลบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เป็นลูกคนสุดท้อง มีพี่ชาย 2 คน หลังจบมัธยมศึกษาได้ไปศึกษาต่อชั้นปริญญาตรี ที่วิทยาลัยครูหมู่บ้านจอมบึง จังหวัดราชบุรี (ปัจจุบันมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง) ในคณะครุศาสตร์ วิชาเอกดนตรีศึกษา
ปี พ.ศ. 2529 ขณะเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4ซึ่งเป็นปีสุดท้าย วันหนึ่งได้นั่งรถปิคอัพ ไปเที่ยวน้ำตกกับเพื่อนที่อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี  ในขากลับซึ่งเธอนั่งมากับคนขับเพียงลำพัง รถได้เกิดอุบัติเหตุแหกโค้ง

คนขับไม่เป็นไร แต่ตัวเธอกระดูกสันหลังหัก เกิดการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง  ทำให้เป็นอัมพาตท่อนล่าง  ต้องนั่งรถเข็น เดินไม่ได้ตลอดชีวิต นับตั้งแต่ปลายปี 2529 เป็นต้นมา
"สาเหตุอุบัติเหตุคราวนั้น เนื่องจากไม่ชำนาญเส้นทาง เพราะเป็นทางโค้งมาก  ตอนนั่งรถไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ชาวบ้านที่มาช่วยเหลือก็ช่วยเหลือไม่ถูกวิธี และที่สำคัญคนขับเมาเหล้า"

เธอเล่าว่าต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเลิศสินอยู่ราว 3 เดือน โดยใส่เหล็กดามกระดูกเอาไว้  แต่เนื่องจากเกี่ยวกับระบบเส้นประสาทจึงช่วยอะไรไม่ได้มาก  พยายามกลับมาสอบจนจบคุรุศาสตร์บัณฑิต แต่ใช้วุฒิการศึกษาไปสมัครงานเป็นครูแต่ที่ไหนก็ไม่มีใครรับ เพราะกลายเป็นคนพิการ จึงกลับมาพำนักที่บ้านพรุ อันเป็นถิ่นเกิด  พยายามดิ้นรนขวนขวายสู้ชีวิต หันไปประกอบอาชีพทำขนมขาย โดยมีแม่คอยดูแลช่วยเหลือ  ต่อมาจึงเริ่มอาชีพเพาะเห็ด  จนพัฒนากลายเป็นสวนเห็ดครบวงจร เป็นผู้รอบรู้เชี่ยวชาญเรื่องการเพาะเห็ด ถ่ายทอดความรู้ต่อสังคมในวงกว้าง  และช่วยเหลืองานสังคมหลายด้านแม้จะมีข้อจำกัดส่วนตัวมากมาย  โดยเฉพาะในเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ ของจังหวัดสงขลา

"เมื่อ 3 ปีที่แล้วมีน้องคนหนึ่งชวนเข้าร่วมชมรมเหยื่อเมาแล้วขับ" ดวงดาวเล่า น้องคนที่ว่า เป็นคนพิการที่อยู่ในชมรมคนพิการสงขลา ที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว จึงเริ่มทำกิจกรรมดังกล่าวสืบเนื่องมา อย่างการร่วมรณรงค์ 7 วันอันตรายตามนโยบายของรัฐบาล  ไปพูดให้นักเรียนตามโรงเรียน สถานศึกษาต่างๆ และบรรยายให้ผู้ถูกคุมประพฤติฟัง

"น่าจะเป็นประโยชน์บ้าง อย่างที่ไปพูดที่โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย ตอนหลังทางโรงเรียนก็บอกว่า เด็กนักเรียนมีความตระหนักในการใส่หมวกกันน็อคมากขึ้น บางแห่งจะจัดเด็กที่ขับมอเตอร์ไซค์มาโรงเรียนมาฟัง&nbsp; เราก็แจกหมวกกันน็อคให้ด้วย " เธอเล่า นอกจากเหยื่อเมาแล้วขับ ในการทำกิจกรรมแต่ละครั้ง จะมีหมอ&nbsp; ตำรวจจราจร มาร่วมให้ความรู้ ในกิจกรรมเดียวกัน<br />

ดวงดาวซึ่งยังอยู่ในเครือข่ายเกษตรไร้สารพิษ ผลิตอาหารเพื่อสุขภาพ ให้กับชุมชน ยังมีมุมมองว่า"ในทางอาหารเราไม่ควรนำสารพิษเข้าสู่ร่างกาย&nbsp; อย่างเหล้า บุหรี่ เป็นสิ่งไม่ดี ก็ไม่ควรนำเข้าสู่ร่างกาย&nbsp; ควรเลิกดื่ม แต่ขณะที่ยังไม่เลิก ถ้าเมาก็ไม่ควรขับรถ"

นั่นเป็นสิ่งที่เธอพยายามบอกสังคม ให้ตระหนัก และปฏิบัติอย่างจริงจังเสียที  หลังจากเธอตกเป็นเหยื่อมาแล้วกว่า 20 ปี

Relate topics

Comment #1
นร่ (Not Member)
Posted @22 ส.ค. 50 00:00 ip : 202...253

Comment #2
ใบเฟิร์น (Not Member)
Posted @4 ต.ค. 50 11:38 ip : 222...245

ตอนนี้แฟนประสบอุเหตุทางรถจักรยานยนต์กระดูกหัก เดินไม่ได้มา 3 ปีแล้ว อยากจะทราบว่า มีวิธีรักษาให้หาย หรือให้เดินได้ มีบ้างเปล่าคะ ถายมีใครทราบ กรุณาเมลบอกใบเฟิร์นด้วยนะคะ จักขอบพระคุณเปนอย่างยิ่งคะ ตอนนี้สงสารแฟนมากๆคะ

Comment #3รถจักยานยนต์สามล้อ เครื่องยนต์ 50-125cc มีเกียร์ถอยหลังสำหรับคนพ
พัทยา มอเตอร์ไบค์ พลัส (ชลบุรี) (Not Member)
Posted @18 ธ.ค. 52 11:18 ip : 125...59

หากท่านเป็นคนพิการขายล็อตเตอรี่ (สลากกินแบ่งรัฐบาลฯ) ที่ใช้รถจักรยานยนต์สามล้อดัดแปลงใดๆ ก็ตาม ซึ่งขับเดินหน้าได้อย่างเดียว ทางร้านพัทยา มอเตอร์ไบค์ พลัส ขอเสนอ "รถจักรยานยนต์สามล้อที่ผลิตสำหรับคนพิการโดยเฉพาะ คือ มีให้เลือก 2 รุ่น คือ

รุ่น PATT-A  :  เครื่องยนต์ขับเดินหน้าและถอยหลังอัตโนมัติ หรือเครื่อง CVT ระบบเดียวกับ HONDA รุ่น Click, Nouvo รุ่น PATT-B  : เครื่องยนต์ขับเดินหน้า 4 เกียร์ และถอยหลัง 1 เกียร์ ระบบเดียวกับ HONDA รุ่น Wave

ซึ่งเครื่องยนต์ทั้ง 2 รุ่นดังกล่าว เติมน้ำมันเบนซิน 91 หรือ 95

ดูรายละเอียดและราคาเพิ่มเติมที่ http://finoalarmsale.plazathai.com หรือ โทรศัพท์ 081-5774867 ,  038-480157

นอกจากนี้ทางร้านฯ ยังรับเปลี่ยนเครื่องยนต์รถของท่านให้มีเกียร์ถอยหลังอีกด้วย โดยถอดเอาเครื่องยนต์เก่าของท่านออก และติดตั้งเครื่องยนต์ใหม่ที่เกียร์ถอยหลังแทน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่โทรศัพท์ 081-5774867 ได้ทุกวัน

ร้านพัทยา  มอเตอร์ไบค์ พลัส 8/2 ม.8 ต.บึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 20230 โทรศัพท์  081-5774867  038-480157 อีเมลล์  minimax25@yahoo.com  pattayamotorbikethailand@yahoo.co.th

ขออภัย ขณะนี้เว็บไซท์ของดการสร้างหัวข้อใหม่และการแสดงความคิดเห็นไว้ชั่วคราว