เรื่องเล่าจากเบลเยียม 71 : คนไร้รัฐ ผู้ลี้ภัย กับหน้าที่แห่งรัฐ
โดย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ
ในประเทศเบลเยียมมีผู้ขอลี้ภัย คนไร้เอกสารแสดงตัวตน คนที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และคนไร้รัฐเข้ามาอยู่จำนวนไม่น้อย เชื่อว่ามีมากกว่าแสนคน กระจัดกระจายตามเมืองใหญ่ๆโดยเฉพาะบรัสเซลส์ ที่จำต้องเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเพราะหากมาถูกต้องตามกฎหมายคงไม่ได้มา เช่นขอวีซ่าจากมาเที่ยวแต่อยู่ยาวไม่ยอมกลับ หรือข้ามพรมแดนในจุดที่ไม่มีรั้ว แล้วเดินทางต่อมาเรื่อยๆเพื่อเสี่ยงโชคแสวงหาสิ่งที่ดีกว่า
รัฐในยุโรปรวมทั้งประเทศไทยได้ลงนามในกฎบัตร อนุสัญญาหรือปฏิญญาเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในระดับสหประชาชาติแทบทุกชิ้นที่ร่างกันมา แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ เมื่อลงนามไปแล้ว เขาก็มีศักดิ์ศรีที่จะทำให้ได้จริงตามที่ลงนามไป รวมทั้งกรณีการดูแลคนไร้รัฐ ผู้ลี้ภัยให้ได้รับการดูแลด้านสิทธิในความเป็นคนเช่นสุขภาพ การศึกษา ที่อยู่อาศัย การมีรายได้ เป็นเรื่องที่สำคัญและยากเรื่องหนึ่งของสหภาพยุโรปที่มีการอพยพของผู้คนจากทุกสารทิศ
เรื่องจัดการศึกษาให้กับเด็กที่อพยพตามพ่อแม่มานั้น เป็นเรื่องที่ไม่ยาก ทุกประเทศแม้แต่ไทยก็อนุญาตให้เข้าเรียนฟรีใกล้บ้านได้เฉกเช่นเดียวกับลูกหลานเจ้าของประเทศ แต่เรื่องการจัดการดูแลสุขภาพนี่ยากกว่ามาก เพราะมีราคาแพงและซับซ้อน เบลเยียมเปิดช่องในการดูแลสุขภาพคนที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายไว้สองช่องคือ จะเป็นใครก็ตามหากเจ็บป่วยฉุกเฉินไปรับบริการได้ที่ห้องฉุกเฉินได้ทุกคนโดยไม่ต้องจ่ายเงิน แต่หากบางคนเจ็บป่วยบ่อย มีโรคประจำตัว จะไปห้องฉุกเฉินบ่อยก็ไม่สะดวกคิวยาวและการดูแลไม่ต่อเนื่อง ก็สามารถใช้ช่องทางที่ 2 คือไปที่เทศบาลขอรับความช่วยเหลือจากนักสังคมสงเคราะห์ เพื่อรับสิทธิบัตรประกันสุขภาพคนยากไร้ได้ แม้ต้องต่ออายุทุก 3 เดือน แต่เมื่อไปรักษาที่คลินิก ร้านยาประจำตัวตามที่บัตรระบุไว้ จะไม่มีค่าใช้จ่าย ทางกองทุนระดับชาติจะตามจ่ายให้กับคลินิกและร้านเภสัชเอง
แม้เรื่องนี้จะมีถกเถียงกว้างขวางว่าเป็นการเอื้อให้คนเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายได้ใจไม่ยอมอพยพกลับบ้านเดิม แต่ด้วยหลักสิทธิมนุษยชน (human right) การยอมรับต่อเสรีภาพของบุคคล (liberty) และการเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุข (solidarity) รวมทั้งการยอมรับในการเผชิญความจริงว่า มีคนเหล่านี้อยู่จริง เขากลับไปประเทศเขาก็อดตายและเขาก็กลับมาอีก วันนี้จะยากดีมีจนสีผิวใดๆก็ต้องอยู่ร่วมกันในสังคมที่ซับซ้อนให้ได้ สังคมของเขาจึงยอมแบกรับภาระนี้ไว้ ทั้งเพื่อแสดงความมีอารยะ การรักษาความสงบสุขส่วนรวมในสังคมเขาเอง และแบ่งปันแก่เพื่อนมนุษย์ที่ก็เป็นคนเหมือนกัน
Relate topics
- เรื่องเล่าจากเบลเยียม 82: เภสัชวิทยาแห่งดอกดิจิทัลลิส
- เรื่องเล่าจากเบลเยียม 81: ประปาดื่มได้
- เรื่องเล่าจากเบลเยียม 80 : วัวนมกับเกษตรวิถีแห่งโลกตะวันตก
- เรื่องเล่าจากเบลเยียม 79: ทุ่ง rapeseed กับคุณลุงชไมเซอร์
- เรื่องเล่าจากเบลเยียม 78: บรัสเซลส์ เมืองหลวงแห่งยุโรป
- เรื่องเล่าจากเบลเยียม 77 : ประท้วง สิทธิในการแสดงออกที่ต้องขออนุญาต
- เรื่องเล่าจากเบลเยียม 76 : แต่ระบบสวัสดิการสังคมในยุโรปกำลังสั่นคลอน
- เรื่องเล่าจากเบลเยียม 75 : ย่านโคมแดง แข่งแสงจันทร์
- เรื่องเล่าจากเบลเยียม 74 : เวลา นาฬิกา และชีวิตที่ต้องเดินเร็ว
- เรื่องเล่าจากเบลเยียม 73: หลังคาพลังแสงอาทิตย์