สงขลาพอเพียง : เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพจังหวัดสงขลา - Songkhla Health

โดย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ

การเมืองเป็นเรื่องปวดสมอง เบลเยียมเป็นประเทศที่ระบบการเมืองไม่ได้เข้มแข็งเหมือนหลายประเทศในยุโรป ที่นี่มีรัฐบาลผสมมาโดยตลอด โดยสามพรรคการเมืองสำคัญคือ พรรคสังคมนิยม(Social Democratic Party) พรรคคริสเตียนประชาธิปไตย(Christian Democratic party) และพรรคเสรีนิยม(Liberal Party) ซึ่งเป็นตัวแทนของสามอุดมการณ์ พรรคสังคมนิยมแทบจะได้ร่วมรัฐบาลตลอด 50 ปีที่ผ่านมา ทำให้ทิศทางประเทศมีความสมดุลย์ของความเป็นสังคมนิยมในประเทศทุนนิยมอยู่มาก แต่ในช่วงระยะหลังพรรคการเมืองชาตินิยมของภูมิภาคทั้งที่พูดดัชต์และพูดฝรั่งเศสก็ได้รับคะแนนสนับสนุนมากขึ้น พรรคเหล่านี้มีจุดขายคือการกระจายอำนาจอย่างสุดขั้ว และการปกป้องชุมชน อาจรวมถึงการกีดกันคนต่างชาติที่หลั่งไหลเข้าเมืองอย่างมากด้วย จนน่ากลัวว่าการเลือกตั้งในปี 2014 ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หากพรรคชาตินิยมมีเสียงมากพอที่จะมีอำนาจต่อรองหรือตั้งรัฐบาลผสมได้ อาจเกิดการการเปลี่ยนแปลงสำคัญในประเทศนี้ แต่นั่นก็คือวิถีประชาธิปไตยและเสียงของคนส่วนใหญ่ที่เขายอมรับ ไม่มีรัฐประหาร การเมืองมาแล้วก็ไป สี่ปีทำดีทำไม่ดีก็เลือกตั้งกันใหม่ ระหว่างรอการเลือกตั้งใหม่ก็ประท้วงกันไป เจรจากดดันหรือรณรงค์ทางการเมืองตามวิธีทางประชาธิปไตย

การไปใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นสิทธิที่บุคคลต้อง(บังคับ)ให้ไปใช้สิทธิตามกฎหมาย หากไม่ไปใช้สิทธิโดยไม่มีเหตุผลก็จะมีโทษปรับ เพราะการเลือกตั้งคือหัวใจของประชาธิปไตย ประชาธิปไตยในยุโรปนั้นน่าสนใจ เขาให้สำคัญกับสิทธิทางการเมืองของพลเมือง คนสัญชาติอื่นถ้าหากเป็นพลเมืองของชุมชนหนึ่งๆนานเกิน 5 ปีและมีคุณสมบัติครบตามเงื่อนไข สามารถไปขอเพิ่มชื่อเพื่อไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งในระดับเทศบาลที่ตนอยู่อาศัยได้แม้ว่าคนๆนั้นจะไม่ได้มีสัญชาติเบลเยียมก็ตาม เป็นการให้สิทธิทางการเมืองแก่ทุกคนให้เป็นส่วนหนึ่งของสังคม แม้ว่าจะยังไม่มีสิทธิโหวตในระดับชาติก็ตาม

สิทธิทางการเมืองนั้นสามารถข้ามพรมแดนได้เพราะการเมืองคือตัวแทนของเสียงพลเมืองและเป็นอีกหนึ่งสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของคนทุกคน ประชาธิปไตยแม้จะไม่ใช่การปกครองที่ดีที่สุด แต่คงไม่ผิดที่เป็นการปกครองที่เลวน้อยที่สุด